วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

2013 Honda Civic 1.5 FB HYBRID 1.035 ล้านบาท

กรุงเทพฯ - บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าเผยโฉมรถยนต์คอมแพคท์ซีดานไฮบริดคันแรกของตนในไทย พร้อมตอบโจทย์ความต้องการในตลาดคอมแพคท์ซีดาน ด้วย Honda Civic Hybrid ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Civic FB รุ่นปัจจุบัน เปิดตัวทำตลาด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Hybrid ในราคา 1,035,000 บาท และรุ่น Hybrid Navi ราคา 1,095,000 บาท ทำการเผยโฉมอย่างเป็นทางการไปแล้วเรียบร้อย เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2013ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ย่านราชประสงค์

alt

Honda Civic Hybrid ใหม่ มาพร้อมการตกแต่งแบบพิเศษ ในแบบเฉพาะรุ่นไฮบริด ผสานเข้ากับดีไซน์ที่ลงตัวของ Civic FB เช่นกระจังหน้าแบบ Clear Blue พร้อมโคมไฟหน้า HID แบบโปรเจคเตอร์ที่ได้รับการออกแบบในสไตล์ Clear Blue ด้วยเช่นกัน ในขณะที่ด้านท้าย มีการเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ ให้เป็นแบบ LED พร้อมสีโคมแบบ Clear Blue และสปอยเลอร์หลังขนาดเล็ก ติดตั้งบนฝากระโปรงท้าย และมีการสวมล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว ที่ออกแบบมาเพื่อ Civic Hybrid โดยเฉพาะ

alt

ส่วนดีไซน์ภายในห้องโดยสาร มีความล้ำสมัยในแบบ Futuristic Cockpit ตกแต่งด้วยโทนสีเทา โดยในรุ่น Hybridจะได้รับการหุ้มเบาะด้วยวัสดุผ้ากำมะหยี่ ส่วนรุ่น Hybrid Navi จะหุ้มเบาะด้วยหนังแท้ โดยมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องโดยสารครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลแบบอัจฉริยะ หรือ i-MID (Intelligent Multi-information Display) ที่จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถอย่างครบครัน ทั้งเครื่องเสียง ความประหยัดระหว่างการขับขี่ และแสดงการทำงานของระบบไฮบริด รวมไปถึงระบบ Eco Assist ช่วยแนะนำการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (One Push Ignition System) ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)

alt
alt
alt  

ขุมพลังไฮบริด ที่นำมาติดตั้งใน Civic Hybrid เป็นขุมพลังที่แตกต่างจาก Jazz Hybrid อย่างชัดเจน เพราะเป็นการใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 8 วาล์ว SOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร เชื่อมต่อกับมอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริด IMA ให้กำลังรวมสูงสุด 110 แรงม้า โดยตัวเครื่องยนต์มีแรงบิดสูงสุดที่ 132 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้ามีแรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตัน-เมตร ที่ 500-1,546 รอบ/นาที โดยมีการเก็บประจุไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่ Li-ion ที่ติดตั้งบริเวณเบาะที่นั่งด้านหลัง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของรถยนต์ไฮบริดที่ผลิตและจำหน่ายในไทย ที่มีการใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่Li-ion ให้ทั้งประสิทธิภาพที่สูงกว่า และน้ำหนักที่เบากว่า

โดยเครื่องยนต์จะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อน และเสริมแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ในช่วงออกตัวหรือเร่งแซง เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำคงที่ เครื่องยนต์จะหยุดการทำงานและตัดเข้าสู่ EV Mode ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวซึ่งจะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ช่วงลดความเร็วหรือเบรก เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและระบบจะนำพลังงานที่สูญเสียไปในขณะหยุดรถ ชาร์จกระแสไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ และเมื่อรถหยุด เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดการทำงานอัตโนมัติ เป็นการเข้าสู่โหมด Idling Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ

alt

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้า (Dual SRS) และระบบถุงลมด้านข้างอัจฉริยะ (i-Side Airbags) ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSAระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าพร้อมระบบช่วยผ่อนแรงรุ่นใหม่ MA-EPS

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ด้วยรูปลักษณ์
ดีไซน์ที่ลงตัวของซีวิค ไฮบริด โฉมล่าสุด ผสานกับสมรรถนะการขับขี่ที่คงความสนุก ประหยัดเชื้อเพลิง ควบคู่กับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฮอนด้ามั่นใจว่า ซีวิค ไฮบริด ใหม่ จะเข้ามาเติมเต็มตลาดรถยนต์ไฮบริดในระบบคอมแพคท์ซีดานให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าหมายการจำหน่ายไว้ที่ 7,200 คัน/ปี"

alt

Honda Civic Hybrid ใหม่ พร้อมจำหน่ายในสีตัวถัง 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีขาวออร์คิด (มุก เพิ่มเงิน 10,000 บาท) สีขาวฟรอสตี้ (เมทัลลิก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) โดยรุ่น Hybrid จะจำหน่ายในราคา 1,035,000 บาทและรุ่น Hybrid Navi จำหน่ายในราคา 1,095,000 บาท ซึ่งในโอกาสนี้ ฮอนด้า ได้ประกาศการรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง และขยายการรับประกันแบตเตอรี่เพิ่มเป็น 10 ปี เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพจากฮอนด้า พร้อมทั้งประกาศขยายอายุการรับประกันแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์รุ่นซีอาร์-ซีร์ และแจ๊ซ ไฮบริดเพิ่มอีก 5 ปีเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ครอบคลุมถึงลูกค้าที่ได้ซื้อรถยนต์ทั้งสองรุ่นไปก่อนหน้านี้อีกด้วย

headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=5270

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น